แนะนำการเลือกซื้อตู้โชว์เค้ก ตู้แช่เค้ก ตู้เค้กอย่างไรให้คุ้มค่า

หลักที่ผมใช้เลือกตู้โชว์เค้ก (ตู้แช่เค้ก ตู้เค้ก  แล้วแต่สะดวกจะเรียกนะครับ)

 

  

 

 

1. พิจารณารูปแบบตู้โชว์เค้กว่าใช้วัสดุอะไรเป็นส่วนประกอบครับ ถ้าใช้ทนก็ควรเป็นสแตนเลสจะดีกว่าเหล็กชุบสี เพราะใช้ไปนานๆ สนิมไม่ขึ้นครับ และใช้กระจกแบบไหน หนากี่ชั้น  ตู้แช่เค้กบางรุ่นจะใช้กระจกสองชั้น ทั้งชนิดกระจกสูญญากาศและชนิดที่มีโดยมีระบบไฟฟ้านำความร้อนอยู่ตรงกลางใช้ไล่ฝ้าครับ แบบนี้ตู้จะดูใส ลดปัญหาการเกิดฝ้าไอน้ำด้านนอกได้ดีกว่าตู้กระจกชั้นเดียวครับ แต่มีราคาสูงกว่า หรือบางตู้แช่เค้กใช้ระบบลมร้อนไล่ฝ้าหน้ากระจก ก็ช่วยลดปัญหาเรื่องฝ้าและเรื่องหยดน้ำได้ระดับนึงครับ และส่วนประตูเลื่อนหลังตู้โชว์เค้ก ก็มีให้เลือกเป็นกรอบพลาสติกหรือสแตนเลสด้วยครับ

นอกจากนี้ควรพิจารณาถึงมาตรฐานของพนักงานและเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตด้วยครับ ว่าดูแล้วน่าเชื่อถือหรือไม่ ซึ่งถ้าเราต้องการตู้ที่ได้มาตรฐานหน่อยก็อาจเลือกโรงงานที่ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย มีระบบควบคุมคุณภาพดีครับ

 

 

 

2. ขนาดตู้แช่เค้กมีขนาดเท่าไหร่ โดยมาตรฐานแล้วความกว้างหน้าตู้ที่มีจำหน่ายกัน ก็มีขนาด 70, 90, 100, 120, 150 ซม.ครับ แล้วแต่พื้นที่และปริมาณสินค้าที่เราต้องการจะแสดงให้ลูกค้าเห็นครับ ส่วนความลึกและความสูงมาตรฐานก็ประมาณ 75-80 และ 130-140 ซม. ครับ  สำหรับบางร้านที่ต้องการตู้แช่ที่มีขนาดหรือรูปทรงแตกต่างออกไปก็มีการสั่งทำตู้แช่เค้กแบบพิเศษขึ้นครับ อาจจะมีหน้ากว้างแค่ 70 ซม แต่เพิ่มความสูงของตู้ขึ้น เนื่องจากมีพื้นที่จำกัดครับ

 

 

 

3. ระบบควบคุมอุณหภูมิเป็นระบบใด รุ่นใหม่ๆที่ผมเห็นก็จะเป็นระบบดิจิตอลครับ เราสามารถตั้งอุณหภูมิได้เลยครับว่าต้องการให้มีอุณหภูมิภายในตู้เท่าไหร่ สั่งคอมเพลสเซอร์ตัดการทำงานที่ระดับใด และสั่งให้ทำงานเพื่อให้ความเย็นกับระบบที่ระดับใดเป็นต้น หรือบางรุ่นยังใช้เทอร์โมมิเตอร์ที่คล้ายๆกับปรอทวัดอุณหภูมิในห้องมาติดไว้ครับ แล้วปรับความเย็นเป็นสเกลว่าเย็นมากน้อยเพียงใดครับ  นอกจากนี้ควรดูเรื่องระบบป้องกันความเสียหายกับอุปกรณ์หลังจากไฟตกครับ จะช่วยให้เครื่องเราใช้งานได้ยาวนานขึ้นครับและบางรุ่นก็มีระบบละลายน้ำแข็งที่อาจสะสมในระบบครับ

สำหรับอุณหภูมิที่เหมาะแก่การเก็บรักษาเค้กก็ประมาณ 2-8 องศาเซลเซียสครับ

 

 

4. การรับประกันและการบริการหลังการขายครับ ต้องดูว่าบริษัทนั้นมีความพร้อมในการให้บริการหลังการขายหรือไม่ครับ

 

5. กรณีที่ลูกค้าได้สอบถามเรื่องตู้แช่เค้กมือสอง ผมเห็นคนประกาศขายในเวปไซต์ต่างๆพอสมควรครับ แต่การเลือกซื้ออาจจะต้องไปดูเครื่องจริงก่อนครับว่ามีสภาพการใช้งานอย่างไร ทำงานเป็นปกติหรือไม่ เพราะลูกค้าของผมบางรายหาซื้อมาใช้ก็ใช้งานได้ดี แต่บางรายก็เจอปัญหาจุกจิก เช่นว่า ทำความเย็นไม่สม่ำเสมอบ้าง ความเย็นไม่ถึงที่ตั้งค่าไว้บ้าง หรือระบบไล่ฝ้าผิดปกติทำให้มีฝ้าเกาะกระจกมาก ไม่สามารถมองเห็นสินค้าในตู้ได้ชัดเจน  การเลือกซื้อตู้โชว์เค้กมือสองนี้อาจจะพบว่าผู้ขายไม่มีการรับประกันสินค้าหรือถ้ามี ก็จะเป็นการรับประกันระยะสั้น ดังนั้นผู้ซื้อควรทำการตรวจสอบให้แน่ใจและเผื่อค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงไว้ด้วยครับ

 

6. กรณีการเช่าตู้โชว์เค้ก  ผู้เช่ามักจะเช่าเพื่อใช้ในงานแฟร์ระยะสั้น ,ใช้สำหรับการถ่ายทำรายการหรือโฆษณาต่างๆ หรือใช้เพื่อทดลองจำหน่ายสินค้าเพื่อทดสอบตลาด เป็นต้น  ราคาโดยทั่วไปก็อยู่ราว 700 - 2,000 บาทต่อวันครับ (ราคาปรับเปลี่ยนตามระยะเวลาการเช่าครับ ถ้าเช่าระยะเวลานาน ราคามักจะต่ำกว่าเช่าระยะสั้นครับ) โดยในสัญญาระบุให้ผู้เช่าตู้โชว์เค้กต้องมัดจำเต็มจำนวนมูลค่าตู้ เช่น

ตู้ราคา 40,000 บาท เราก็ต้องมัดจำไป 40,000 บาท และตกลงค่าเช่า วันละ 1,500 บาท เป็นจำนวน 5 วัน ดังนั้นเมื่อครบกำหนดการเช่า ผู้ให้เช่าจะทำการตรวจสอบสภาพตู้ว่าทำงานเป็นปกติหรือไม่ มีความเสียหายเกิดกับตู้หรือไม่ ถ้าทุกอย่างปกติดี ก็จะทำการคิดค่าเช่าเป็นเงิน 7,500 บาท รวมกับค่าขนส่ง (สมมติให้ค่าขนส่งเป็นเงิน 2,500 บาท) โดยหักจากเงินมัดจำไป และคืนเรามา 30,000 บาท (ค่าบริการขนส่งตู้ขาไป-กลับ ขึ้นอยู่ที่ระยะทาง)

กรณีที่ตู้ทำงานไม่เป็นปกติ จนส่งผลเสียต่อสินค้าของเรา ผู้ให้เช่าต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และกรณีที่ผู้เช่าประมาทจนทำให้ตู้เสียหายเช่น มีรอยบุบ ขูดขีด กระจกแตกร้าว หรือเกิดความเสียหายแก่อุปกรณ์ทำความเย็นเนื่องจากไฟฟ้าของร้านขัดข้อง ตรงนี้ทางผู้เช่าต้องรับผิดชอบ โดยผู้ให้เช่าจะประเมินค่าความเสียหายและหักจากเงินมัดจำคราวแรกครับ

 

ลูกค้าที่สนใจชมรายการสินค้าในหมวด ตู้เค้ก ตู้โชว์เค้ก ตู้แช่เค้ก สามารถกดลิงค์ได้เลยครับ

Visitors: 89,914