น้อย เบเกอรี่ 1980
น้อย เบเกอรี่ 1980 ต้นตำรับ เค้กฝอยทอง ลาวามะพร้าวอ่อน เจ้าแรกในไทย!
เค้กฝอยทอง ลาวามะพร้าวอ่อน – หากพูดถึงเค้กฝอยทอง ลาวามะพร้าวอ่อน หลายคนคงนึกถึงเค้กฝอยทองส้มๆ ที่มีไส้มะพร้าวอ่อนอยู่ข้างใน ซึ่งในปัจจุบัน เค้กฝอยทองแบบนี้ มีทำออกมาขายกันอย่างแพร่หลาย แต่หากจะพูดถึง คนที่เป็นต้นตำรับเลย จะไม่พูดถึง “น้อย เบเกอรี่ 1980” ได้อย่างไรกัน
“เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณภูดิศ เลิศศันสนะ ทายาทรุ่นที่ 2 ของร้าน “น้อย เบเกอรี่ 1980” วัย 23 ปี เล่าถึงที่มาที่ไปให้ฟังว่า ร้านน้อย เบเกอรี่ 1980 เปิดมาได้กว่า 40 ปีแล้ว โดยแม่น้อย-จิดาภา เลิศศันสนะ เป็นผู้บุกเบิก ส่วนตนในฐานะเจ้าของรุ่นที่ 2 เพิ่งได้เข้ามารับช่วงต่อได้ไม่นานนี้เอง
“คุณแม่ผมเขาชอบทำขนมครับ เขาก็มีโอกาสไปเรียนทำขนมคอร์สสั้นๆ ด้วยความที่แม่เป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่ง ก็จะคิดค้นสูตรขนมมาให้ผมกับน้องกินกันตลอด แล้วด้วยความที่สมัยนั้นมหาชัยมันยังไม่มีพวกร้านเบเกอรี่ แม่ก็เห็นว่า ไหนๆ ก็เรียนมาแล้ว ก็ลองมาเปิดร้านดูดีไหม เพราะแม่ก็อยากให้คนลองกินขนมอร่อยๆ กันดู ก็เลยไปชวนคุณน้าที่เป็นน้องสาวแม่มาเปิดร้านด้วยกัน” คุณภูดิศ เล่า
ร้านน้อย เบเกอรี่ ในสมัยนั้น เป็นร้านห้องแถว 2 ห้อง ด้วยความที่เป็นของใหม่ บวกกับสูตรขนมความอร่อยแบบใหม่ จึงทำให้มีคนมาต่อคิวซื้อกันเต็มร้านและยังคงได้รับความนิยมมาตลอดหลายสิบปี โดยขนมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีทั้ง #เค้กนมสด #เค้กฝอยทอง และ #เค้กฝอยทองลาวามะพร้าวอ่อน จนกลายเป็นขนมแจ้งเกิดของร้านกันเลยทีเดียว
“เค้กฝอยทองลาวามะพร้าวอ่อน ร้านเราถือเป็นต้นตำรับ และเจ้าแรกในไทยเลยครับ โดยเค้กตัวนี้เป็นการพัฒนาสูตรมาจากเค้กนมสดและเค้กฝอยทองแบบธรรมดา แล้วคุณแม่ก็คิดสูตรไส้ลาวาเข้ามาเพิ่ม โดยใช้ มะพร้าวอ่อน ที่เป็นวัตถุดิบท้องถิ่นเข้ามา เพราะเดี๋ยวนี้คนก็นิยมความเป็นไทยกันมากขึ้น ทำให้เค้กมีความหอมหวานของฝอยทอง ตัดกับรสชาติของไส้ลาวา และวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ทำเบเกอรี่ก็เป็นวัตถุดิบอย่างดี เกรดพรีเมี่ยม เป็นจุดเด่นของขนมร้านเรา ทำให้เวลาทาน ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงคุณภาพ แถมราคา ทุกคนสามารถซื้อทานได้ จึงกลายเป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้าทุกเพศทุกวัย” ทายาทร้านคนเดิม กล่าว
ปัจจุบัน #น้อยเบเกอรี่1980 ขายดิบขายดีจนขยายสาขาไปได้กว่า 13 สาขา แต่เมื่อโควิด-19 ระบาด ก็ทำให้ร้านได้รับผลกระทบไปเหมือนกัน
“ธุรกิจมันก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย มันอยู่ที่ว่าเราจะปรับตัวยังไงให้ร้านมันยังไปรอด ก็คือการปรับตัวและรักษามาตรฐานคุณภาพของสินค้าเอาไว้ ผมไม่เถียงนะว่าการคิดอะไรใหม่ๆ มันสามารถดึงดูดลูกค้าได้ แต่การรักษามาตรฐานเอาไว้มันยากและยั่งยืนกว่า ถึงผมจะเข้ามารับช่วงต่อ แต่รสชาติก็ยังเหมือนเดิมเพราะคุณแม่ก็ยังทำอยู่กับผมนี่แหละ แล้วพอโควิดมา ร้านก็โดนผลกระทบเหมือนกันครับ คนก็หายไปช่วงหนึ่ง โดยเฉพาะสาขาที่ไม่ได้อยู่ในห้าง ช่วงแรกๆ ในห้างก็ยังพอขายได้ เพราะสินค้าประเภทอาหารยังสามารถเปิดร้านขายได้ แต่ต้องเป็นแบบห่อกลับไปทานที่บ้าน ที่ร้านก็ปรับตัวมาทำดีลิเวอรี่ แล้วก็หันมาจัดระบบใหม่ พอเราปรับตัวได้ ทุกอย่างก็กลับมาดำเนินต่อตามปกติ เพียงแต่ว่าเราอาจจะต้องโปรโมตผ่านโซเชียล เพื่อเข้าหาลูกค้ามากขึ้น ก็อยู่ที่ว่าจะโปรโมตยังไงให้แตกต่าง แต่ตอนนี้ร้านเราก็ยังพอไปได้อยู่ครับ” เจ้าของร้านรุ่น 2 กล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจากเพจเส้นทางเศรษฐีครับ
ขอบคุณร้านน้อย เบเกอรี่ 1980 ที่ไว้ใจใช้ตู้แช่จากทางร้านเดอะ เมเปิ้ลครับ ^_^